ตุ๊กตาไล่ฝน (てるてるぼうず) |
ปิยะแสง เล่าเรื่อง |
วันพุธที่ 02 มิถุนายน 2010 เวลา 00:00 น. |
ตุ๊กตาพื้นบ้านแบบหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นที่ปรากฏเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในชนบทหรือใจกลางของเมืองหลวง ตุ๊กตาตัวนี้มักจะถูกผูกห้อยแขวนไว้กับชายหลังคาบ้านหรือแขวนประดับไว้บนขอบ หน้าต่างหรือบนกิ่งไม้ ทั้งๆที่มันมีรูปร่างที่แสนจะเรียบง่ายธรรมดา ทำขึ้นง่ายๆด้วยเศษผ้าหรือกระดาษสีขาว แต่ไม่น่าเชื่อว่า ตุ๊กตาที่สุดแสนจะธรรมดานี้ กลับมีอิทธิพลต่อคติความเชื่อของชาวญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่า หากแขวนมันไว้ จะทำให้รุ่งขึ้นของวันพรุ่งนี้ ท้องฟ้าจะปลอดโปร่งแจ่มใส แน่นอนว่า ตุ๊กตาตัวนี้ก็คือ “ตุ๊กตาไล่ฝน” ตุ๊กตาไล่ฝน หรือ เทรุ เทรุ โบซุ ( Teru teru bozu) เป็นหนึ่งในตุ๊กตาวัฒนธรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่น คำว่า เทรุ (teru) แปลว่า ส่องประกาย (ซึ่งหมายถึงแสงพระอาทิตย์) ส่วนคำว่า โบซุ (bozu) แปลว่า พระภิกษุ (แต่มีความหมายอีกอย่างหนึ่งว่า “หัวโล้น” เช่นกัน) ลักษณะของตุ๊กตาไล่ฝน(เทรุเทรุ โบซุ) มีขนาดเล็กประมาณ 5 -8 นิ้ว สร้างขึ้นด้วยกรรมวิธีง่ายๆ โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้ผ้าหรือกระดาษสีขาวมาตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แล้วหาวัสดุทรงกลมหรือใยฝ้ายมาทำเป็นส่วนศีรษะ ม้วนขึ้นเป็นก้อนกลมบรรจุไว้ตรงกลาง จากนั้นก็จะรวบผ้าเข้าหากันแล้วผูกด้วยเส้นเชือกหรือเส้นด้าย ต่อมาจึงค่อยวาดรายละเอียดในส่วนศีรษะ เช่น ดวงตา จมูก และ ปาก ก่อนที่จะนำไปห้อยแขวนไว้กับชายหลังคาบ้านหรือริมขอบหน้าต่าง หลังจากนั้น จึงจะตั้งจิตอธิษฐานขอพรให้วันรุ่งขึ้นมีท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งแจ่มใส คติความเชื่อแบบนี้ จึงเป็นที่นิยมมากของชาวไร่ชาวนาที่ต้องไปหว่านข้าวไถนาในยามที่ท้องฟ้า อากาศสดใส ในขณะที่เด็กๆก็จะชอบอกชอบใจ เพราะหากเช้าวันพรุ่งนี้ไม่มีฝนตก จะทำให้พวกเด็กๆสามารถเดินทางไปทัศนศึกษา แข่งขันกีฬา รวมไปถึงการได้ไปท่องเที่ยวกับครอบครัวได้อย่างมีความสุข
ประวัติที่มาของ ตุ๊กตาไล่ฝน (เทรุเทรุโบซุ) กล่าวกันว่าสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (Edo period)หรือประมาณ 400 ปีก่อน สันนิษฐานว่าความเชื่อเรื่องตุ๊กตาไล่ฝน ได้รับอิทธิพลแบบอย่างมาจาก ตุ๊กตาเซ่าฉิงเหนียง (掃晴娘)ของประเทศจีน มีความหมายว่า “หญิงสาวผู้ขจัดเมฆฝน” ในหนังสือสมัยโบราณชื่อ บันทึกแห่งนครหลวง (帝京景物略) มีข้อความอยู่ตอนหนึ่ง เขียนไว้ว่า …ฝนตกมานานจนมากเกินไปแล้ว ชาวบ้านจึงเอากระดาษสีขาวมาทำเป็นส่วนศีรษะ ตัดกระดาษสีแดงและเขียวมาทำเป็นเสื้อผ้า แล้วผูกแขวนไว้ใต้หลังคา เรียกกันว่า “เซ่าฉิงเหนียง”
นอกจากนี้ บางตำนานก็เล่ากันว่า พระสงฆ์ในนิกายเซน(Zen) เป็นผู้แนะนำให้ชาวบ้านสร้างมันขึ้นเพื่อขอพรให้วันพรุ่งนี้มีท้องฟ้าที่สด ชื่นแจ่มใส พวกเขาจะได้มีกำลังใจออกไปทำไร่ไถนาได้อย่างสะดวกสบาย ความเชื่อเช่นนี้สังเกตได้ว่า อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำตุ๊กตาไล่ฝนที่มีศีรษะล้านเลี่ยน อันเป็นสัญลักษณ์แทนพระสงฆ์ที่มาช่วยขจัดปัดเป่าเมฆฝนให้มลายหายไปนั่นเอง
ภาพของตุ๊กตาไล่ฝนสำหรับคนไทยจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกคุ้นตา ทั้งนี้เป็นเพราะว่า ตุ๊กตาไล่ฝนได้ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง “อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา”(一休さ) ฉากภาพตุ๊กตาไล่ฝนเป็นเสมือนตัวแทนของแม่ที่อิคคิวได้แขวนไว้กับกิ่งไม้ เพื่อเป็นตัวแทนความรักความผูกพันที่ใช้ดูต่างหน้าแทนแม่ที่อยู่ห่างไกล ส่วนใหญ่แล้วชาวไทยจะจดจำภาพของตุ๊กตาไล่ฝนได้เป็นอย่างดี เพราะมีปรากฏอยู่ในเนื้อเรื่องและช่วงเพลงจบของภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องนี้
ในบทเพลงกล่อมเด็กที่มีชื่อเสียงโด่งดังของญี่ปุ่น ชื่อว่า เทรุเทรุ โบซุ (Teru teru bozu) หรือ ตุ๊กตาไล่ฝน ประพันธ์โดย เคียวซัน อาซาฮาระ (Kyoson Asahara) เรียบเรียงเป็นบทเพลงโดย ชินเปอิ นากายาม่า ( Shinpei Nakayama) มีเนื้อความว่า
นอกจากนี้ ยังมีคติความเชื่อแปลกๆที่น่าสนุกและน่าสนใจยิ่งเกี่ยวกับตุ๊กตาไล่ฝนก็คือ หากตั้งจิตขอพรแล้ววันรุ่งขึ้นท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส ก็ให้เอากระดิ่งเล็กๆมาแขวนคอของมันไว้ แต่ถ้าหากวันใดอยากให้มีฝนตกหนักล่ะก็ ให้เอาตุ๊กตาไล่ฝนห้อยกลับหัวลง (บ้างก็เอาสีดำมาป้ายบนศีรษะ) เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของมันหายไป ฝนก็จะได้ตกลงหนักๆแทนที่
ไม่ว่าความเชื่อเรื่องตุ๊กตาไล่ฝนจะดลบันดาลให้สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ก็ตาม แต่สำหรับหัวใจดวงน้อยของเด็กๆแล้ว เช้าวันรุ่งที่ท้องฟ้าแจ่มใส ย่อมส่องประกายเจิดจ้ากลางหัวใจอันบริสุทธิ์ของพวกเขานั่นเอง
เรื่องโดย ปิยะแสง จันทรวงศ์ไพศาล (17) ผลงานอื่นๆ ของ ปิยะแสง เช่น |
แก้ไขล่าสุด ใน วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2010 เวลา 21:25 น. |